วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2559

วิธีกรอก DS-160 VISA อเมริกา 2559 ( 2016 )




DS-160


เพิ่งจะมาเขียน  จริงๆเราขอวีซ่าไปแล้วตั้งแต่เดือน มีนา 2559  ค่ะ  แต่จะเดินทางจริงๆคือ
ปลาย มค 2560  บางคนอาจสงสัยว่า ขอวีซ่าล่วงหน้าได้นานแค่ไหน??
ขอได้ล่วงหน้านานมากค่ะ เป็นปีก่อนเดินทางก็ได้  เพราะเวลาที่วีซ่าผ่าน ส่วนใหญ่จะได้ 5-10 ปี
แต่หลายๆประเทศส่วนใหญ่ ขอล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน หรือประมาณ 3 เดือนก่อนเดินทาง
อาจเป็นเพราะ วีซ่าท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั้น มีอายุ 3 เดือนค่ะ

เข้าเรื่อง!!  อย่างที่เคยบอกว่า ขอวีซ่าอเมริกา จะว่ายากมันก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย ส่วนที่กงศุล
จะพิจารณานั้น เกินครึ่ง อยู่ที่ DS-160 ค่ะ เขาจะเอาคำถามในนี้แหละ ไปถามเรา ณ วันที่ไปสัมภาษณ์
ซึ่ง แนะนำให้ทุกๆคนกรอกเอง  และควรจะหาข้อมูลที่ที่เราจะไปด้วยค่ะ เพราะเวลาที่เขาถาม
จะได้ตอบได้อย่างมั่นใจ และชัดเจน  หากตอบแบบลังเล มีโอกาสสูงมากๆ ที่จะโดนปฏิเสธวีซ่า
เพราะงั้น การที่เรามีข้อมูลอยู่ในหัวอยู่แล้ว บวกกับ การกรอกข้อมูลเอง ทำให้การตอบคำถามมันสมูทขึ้น
ไม่ว่าจะถามอะไรมา ก็ตอบได้หมด!

เรื่องที่บอกว่า ผู้หญิงคนเดียว ผ่านยาก!  อันนี้ก็ไม่เชิงนะคะ เขาอาจจะดูหลายๆอย่างประกอบกัน
ตัวเราเอง จะไปคนเดียวค่ะ  เป็นสาวโสดด้วย จะไปเกือบเดือน แต่ก็ขอผ่านแบบ ง่ายๆ ถามนั่นถามนี่ ไม่ขอเอกสารดู  จบ  อย่างที่บอกว่า พยายามตอบให้ฉะฉาน และ มั่นใจ น้ำเสียงสดใส น่าจะผ่่านได้ง่ายๆเหมือนกันค่ะ

ถ้าอ่านจบแล้ว ส่วนตรงนี้จะเป็น วิธีการกรอกข้อมูล สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะกรอกอะไรยังไง
กรอกตรงไหน


-----------------------------------------------------------------------------------------

ขั้นแรก เข้าไปที่  https://ceac.state.gov/GenNIV/Default.aspx
เพื่อไปกรอกแบบฟอร์ม DS-160 ค่ะ

-เลือกประเทศ และ จังหวัดที่จะไปขอค่ะ  ที่ไทยก็มี กรุงเทพ กับ เชียงใหม่

-ในส่วนของ Start an Application  คือการเริ่มกรอกข้อมูลใหม่ค่ะ ถ้ายังไม่เคยกรอกก็กดตรงนี้เลย

- ส่วน Upload an Application  คือเราสามารถอัพโหลด ข้อมูลที่เรากรอกไปแล้ว และเซฟไว้ในเครื่อง สามารถอัพโหลดเพื่อกรอกต่อได้ค่ะถ้าหากยังกรอกไม่เสร็จ

- และอันสุดท้าย Retrieve an Application คือ เรียกดูแบบฟอร์มที่เรากรอกไปแล้ว โดยการกรอก ID และคำถามเพื่อความปลอดภัยที่เราตั้งไว้  ตรงนี้ก็สามารถ กรอกต่อจากส่วนที่ยังกรอกไม่เสร็จได้ค่ะ






ส่วนที่ 1

จะเห็นว่า ด้านบนจะมี Application ID  อันนี้ จดไว้ค่ะ ไว้ใช้เวลาที่เราจะกลับเข้ามากรอก หรือ แก้ใขข้อมูล

ส่วนด้านล่างเป็นการเลือกคำถามและคำตอบเพื่อความปลอดภัย  อันนี้ก็จำไว้ดีดีนะคะ เวลาที่กลับเข้ามากรอกหรือดูข้อมูลเขาจะถามค่ะ :D








ส่วนที่ 2.


ส่วนนี้จะเป็น การกรอกข้อมูลของผู้ขอค่ะ ถ้าหากแปลไม่ออก มุมขวาบนจะมีให้กดเลือก ภาษาค่ะ
พอเรากดเลือกถาษาไทยแล้วเนี่ย ทุกอย่างก็จะเป็นภาษาอังกฤษเหมือนเดิมนั่นแหละค่ะ (อ้าว!??)
แต่ถ้าเราเอาเมาส์ไปชี้ที่ส่วนที่เราอยากจะแปล  เช่น เอาเคอเซอร์เมาส์ไปชี้ที่คำว่า Surnames
ก็จะมีคำแปลเล็กๆโผล่ขึ้นมาค่ะ  












กรอกไปเรื่อยๆ จนเสร็จค่ะ แล้วก็กด NEXT เพื่อไปส่วนต่อไป








ส่วนที่ 3.

ตรง นี้ก็ยังเป็นในส่วนของ ข้อมูลผู้ขอค่ะ





ส่วนที่ 4.

ตรงนี้เป็นข้อมูลที่อยู่ของผู้ขอค่ะ  เราเคยกรอกเครื่องหมาย / แล้วไม่สามารถทำได้ค่ะ  หลังจากหาข้อมูลก็พบว่า เขียนไปว่า  TUB เลยก็ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา!












กรอกเบอร์ติดต่อ เบอร์ที่ทำงานเสร็จก็กด Next เพื่อไปส่วนของ Passport ได้เลยค่ะ







ส่วนที่ 5

เป็นในส่วนของข้อมูล Passport ของผู้ขอค่ะ













ส่วนที่ 6.

เป็นในส่วนของ ประเภทของ วีซ่า และข้อมูลการเดินทางของผู้ขอค่ะ
ถ้ายังไม่มีวันที่แน่ชัดว่าจะไปตอนไหน ก็ใส่คร่าวๆไปได้ค่ะ  อย่างตอนที่เราไปขอ
กรอกไปว่า จะไปเดือน ธันวาปี 2559  ประมาณ 20 วัน ซึ่งเดินทางจริงๆนั้น ตอนไหนและกี่วันก็ได้ค่ะแต่อย่าอยู่เกิน 6 เดือน  

อย่าลืมเลือกประเภทวีซ่าให้ถูกต้องนะคะ  ตอนเราไปขอเจอคนที่จะไปเที่ยวแต่ดันเลือกวีซ่าผิดประเภท ต้องกลับไปแก้ใหม่
 






ตรงนี้จะเป็นที่พักที่จะไปพักในอเมริกาค่ะ  ถ้ายังไม่รู้จะไปพักที่ไหน แต่ไม่ได้ไปพักกับญาติ
ก็หาที่พักจากเว็บจองโรงแรมมาก่อนก็ได้ค่ะ  แต่ต้องเลือกที่พักเมืองที่เราคิดจะไปนะคะ
ไม่ใช่ว่า จะไปนิวยอร์ค  แต่ดันไปหาที่พักที่ ฟลอริด้ามา  ไม่ได้นะ!! เดี๋ยวตอนไปสัมภาษณ์ถ้าโดนถามขึ้นมาล่ะแย่เลย=_=

อันนี้คืออันที่เรากรอกค่ะ  เพราะตั้งใจไป ออแลนโด






ถ้ามีคนที่จะเดินทางไปด้วยก็กด YES แล้วกรอกข้อมูลของผู้ที่จะเดินทางไปด้วยนะคะ












ส่วนที่ 7.

บุคคลที่ติดต่อได้ในอเมริกา

ถ้าไม่มีก็ กรอกเป็นที่อยู่ สถานฑูตไทย หรือไม่ก็ สถานที่ที่เราจะไปก็ได้ค่ะ  อย่างเรากรอกที่อยู่ของ Disney world ที่ ออเลนโดเพราะจะไปเที่ยวที่นั่น 





ใครจะไปดีสนีย์ก็ เอาที่อยู่นี้ได้เลยค่ะ เวลาไปสัมภาษณ์ถ้าเขาถามว่าจะไปเที่ยวไหนมั่ง  ตอบไปเลยว่า

WALT  DISNEY  WORLD!!





ส่วนที่ 8.


เป็นข้อมูลครอบครัวของผู้ไปขอค่ะ





ต่อ

ตรงส่วนคำถามคือ ญาติสนิท หรือ ญาติที่ใกล้ชิด ที่ไม่ใช่คุณพ่อคุณแม่นะคะ





ส่วนที่ 9.

ส่วนนี้มีความสำคัญมากค่ะ กรอกให้ละเอียดและถูกต้องด้วยนะคะ






ตรงช่อง  Briefly describe your duties. คือให้อธิบาย หน้าที่การงานของผู้ขอค่ะ ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก
กรอกให้ละเอียดและชัดเจน อธิบายให้ละเอียด เขียนยาวๆไปเลยค่ะ  





ส่วนที่ 10.

จะมี 5 part  ที่เป็นคำถามเกี่ยวกับภูมิหลังของเรา ซึ่ง แนะนำให้ตอบ No ทั้งหมดค่ะ คำถามก็ประมาณว่า
เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพย์ติดไหม  มีคดีติดตัวไหม  อะไรเทือกนี้ค่ะ










ส่วนที่ 11.

หลังจากที่กรอกข้อมูลทั้งหมดแล้ว ก็ถึงหน้าที่ต้องอัพโหลดรูปภาพของเราค่ะ  ตอนที่ไปถ่ายรูปที่ร้าน อย่าลืมขอเป็นไฟล์ใส่ แฟลชไดรฟ์ เพื่อที่จะนำมาอัพโหลดด้วยนะคะ

รูปภาพนั้น ไม่จำเป็นต้องเห็นหู  เพียงแต่ ให้เห็นหน้าตาเราให้ชัดที่สุดค่ะ
 ตอนเราไปขอก็ไม่เห็นหูเหมือนกัน









หลังจากที่อัพโหลดภาพผ่าน ก็กดคอนเฟิร์มจนมาถึงหน้านี้ค่ะ
เขาจะถามว่า มีคนกรอกแบบฟอร์มให้คุณหรือเปล่า
ถ้าไม่มีก็ตอบ NO ไปเลยค่ะ  จากนั้นก็กรอก เลขที่พาสปอร์ตด้านล่าง และโค้ดที่เห็นค่ะ












และสุดท้าย เราก็จะมาถึงหน้านี้!!!!!!

เป็นหน้าสุดท้ายแล้วค่ะ คือหน้าที่คอนเฟิร์มแบบฟอร์มเราแล้ว
ส่วนนี้เราต้องปริ้นเก็บไว้เพื่อนำไปในวันที่สัมภาษณ์วีซ่าด้วยนะคะ ถ้ากลัวหายก็ส่งเข้าไปที่
Email กันไว้ได้เลยค่ะ








*** หมายเหตุ!!
ถ้ากรอกจนมาถึงหน้านี้แล้ว ผู้ขอจะไม่สามารถกลับไปแก้ไขข้อมูลใดๆได้อีก   หากมีข้อผิดพลาด หรือต้องการแก้ไขข้อมูล   ต้องกรอกใหม่เท่านั้นค่ะ !  


----------------------------------------------------------------------------------

จบแล้วค่า สำหรับการกรอก DS-160  หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังมองหาวิธีกรอกนะคะ
ส่วนวิธีการนัดสัมภาษณ์นั้น หลังจากที่เรากรอกจนมาถึงหน้าสุดท้ายก็เข้าไปที่

http://www.ustraveldocs.com/th/

เพื่อทำการ จ่ายเงินค่าวีซ่าซึ่งต้องไปจ่ายที่ธนาคาร กรุงศรี
 และหลังจากที่จ่ายแล้ว  วันต่อมาก็เข้าไปนัดวันสัมภาษณ์ได้เลยค่ะ











วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

-- Before USA part 1

>> เราตั้งใจสร้างบล็อคนี้ขึ้นมาเพื่อ บันทึกการเดินทางระยะเวลาประมาณ เกือบ 1 เดือน ที่จะไปอเมริกาคนเดียว  ตั้งใจที่จะเขียนตั้งแต่การเริ่มขอวีซ่า การจองและหาที่พัก การเที่ยว และต่างๆ
เผื่อว่าคนที่อยากจะไป จะได้มีข้อมูลบ้าง เพราะข้อมูล หรือหนังสือเกี่ยวกับ อเมริกา ที่บ้านเรามีน้อยมาก

นี่เข้าไปร้านหนังสือ  ตรงหมวดท่องเที่ยวต่างประเทศ
50 %  เป็นหนังสือท่องเที่ยวญี่ปุ่น
สัก 15 % เป็นยุโรป
อีก 34 % เป็นประเทศอื่นๆ
แล้วก็ 1 % เป็นอเมริกา

แล้วเกิดอาการตันมาก  รู้แค่ว่า เออ จะไป!!  แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี  จะกินอะไรดี  ถ้าอย่างเวลาเราไปญี่ปุ่น  ก็จะมีจุดมุ่งหมายว่า จะไปกินนั่นไปกินนี่  จะไปเที่ยวตรงนั้นตรงนี้ วิวสวย  ของถูกอยู่ตรงไหน
ขนมขึ้นชื่ออยู่ตรงไหน  ไปแล้วต้องซื้ออะไรกลับมา  และมัน EASY! มากๆ

แต่พอพูดถึงอเมริกา เราที่ไม่เคยไปมาก่อน เคยดูแต่หนัง กัปตันอเมริกา  รวมถึง การขอวีซ่าที่ต้องไปขอเองที่กรุงเทพ หรือ เชียงใหม่ ตามสะดวก   แถมอย่างที่เคยได้ยินมาว่า วีซ่าอเมริกานั้น......

ขอ! ยาก!! มาก!!!

แต่มันก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของเรา หากทำบุญเยอะๆ ใส่บาตรบ่อยๆ มีโอกาสที่จะผ่านสูงมาก(ไม่ใช่ล่ะ)

ผ่านเรื่องวีซ่าไปก่อน มาที่เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยว!!  อย่างที่หลายคนรู้กันว่า อเมริกามันใหญ่มาก ถ้าคิดอยากจะเที่ยว แคลิฟอเนียร์ นิวยอร์ค ลาสเวกัส  ฟลอริด้า  ไนแองการ่า เท็กซัส นิวเม็กซิโก  โอไฮโอ  บอสตัน  ดีซี  Universal studio  Disney world  และอีกมากมาย


          ก่อนหน้าที่ก็ไม่คิดหรอก ว่าแต่ล่ะที่มันจะห่างกันมากขนาดนี้  ถ้ามีเวลาแค่ 5 วัน  ไม่รวมวันไปกลับ ก็อาจจะเที่ยวได้แค่ที่หรือ สองที่  เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวที่ไกลกัน เลยทำให้มันกลายเป็นเหตุผลในการขอแม่ไปเที่ยวนานๆได้ (เย่)


และเรื่องการคมนาคม  เคยคิดว่าอเมริกาน่าจะเหมือนญี่ปุ่น คือมีรถไฟในเมืองใหญ่ๆเพื่อเชื่อมต่อไปยังสถานที่เที่ยวต่างๆได้อย่างสะดวกสะบาย    แต่มีคนเคยพูดเอาไว้ว่าไปอเมริกา
 'ถ้าไม่มีรถ ก็เหมือน ไม่มีเท้า'  ก็ยิ่งทำให้เรื่องที่เคยคิดว่า การไปอเมริกาทุกอย่างมันง่าย กลายเป็น ทุกอย่างมันแม่* ยากสึดๆ!!!!

เรื่องที่พัก!!!  ที่พักที่แม่*บวกทุกอย่างเท่าที่มันจะบวกได้  พูดแล้ว...... น้ำตาจะไหล

นี่ยังไม่นับเรื่องที่พูดภาษาอังกฤษได้แค่  กู้ดมอร์นิ่งทีเช่อร์ ฮาวอาร์ยู๊ว์ แอมฟายแต้งกิ๊ว ซิทดาว ตามที่เคยเรียนมากว่า 20 ปี   เปล่าหรอก จริงๆก็ไม่แย่ขนาดนั้น พูดได้แบบแกรมมั่ว  และ ปัญหาการเมืองอเมริกาในช่วงนี้.....


ตอนที่คิดจะไป ข้อมูลในหัวเกี่ยวกับอเมริกานี่เป็นศูนย์  รู้แค่นิวยอร์คคือเมืองหลวง! (นี่ก็ผิด) เพิ่งจะมารู้ว่า วอชิงตัน DC เป็นเมืองหลวงของอเมริกาเมื่อวาน! ตอนที่เล่นเกม  QuizClash ในมือถือ

รู้แค่อยากจะไป Disneys World กับ Universal studio ที่ ออลันโด  อยากจะกิน TACO ที่เป็นอาหารเม็กซิกัน!  แล้วไปอเมริกาทำไม!??  อยากไปนิวยอร์ค ก็ไม่รู้ว่าจะไปทำไมเหมือนกัน

ไม่รู้กระทั่งว่าเขากำลังจะเลือกตั้งกัน จนมารู้เมื่อช่วงเดือนที่แล้ว ก็ได้กลิ่นอายความซวยเข้ามาในชีวิตนิดหน่อย

 เวลาเกือบ 1 เดือนนี่จะไปไหนยัง งงๆ กับชีวิตตัวเองอยู่เลย  เวลาก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  ที่ตั้งใจจะลดน้ำหนักก่อนไปก็กลายเป็น น้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ไม่เป็นไร  เราไม่แคร์ เรามั่นใจว่าหุ่นดีแล้ว ดีกว่าช้างนิดหน่อย..

ตอนหน้าจะเขียนการขอวีซ่าอเมริกา  แน่นอนว่าใน Pantip มีเพียบ!!  แต่เราก็จะเขียนเพิ่มอีก ให้เป็นทางเลือกในการหาข้อมูล

--- ขอบคุณค่ะ ---

15.11.2016